Download Torrent Lo sceicco bianco megavideo amazon tamil kickass mkv
Cast=Alberto Sordi brief=Who would have thought that only moments after arriving at Rome for their honeymoon, the young and pure bride, Wanda, would sneak out of the room, leaving her fastidious groom, Ivan, all alone? Obsessed with the masculine Fernando Rivoli--the hero of her favourite romantic photo-novel, The White Sheik--Wanda plucks up the courage to meet him in person, only to be seduced by the arrogant protagonist, so far away from the hotel and her husband. As a result--perplexed by Wanda's strange disappearance, and unable to disclose the news to his family--Ivan meanders through the ill-lit Roman streets in search of his wife, on pins and needles, waiting for their eleven o'clock appointment with his uncle and the Papal Audience at the Vatican. What does the new day have in store for the separated newlyweds? writer=Tullio Pinelli, Federico Fellini 83 min audience score=4616 Votes Drama, Comedy.
The protagonist is a stuffy little bureaucrat from a small town arriving for his honeymoon in Rome with his very sheltered (only a bit more than himself) young bride. He has few romantic thoughts on his mind. His main concern is a meeting with his uncle, a minor official at the Vatican, who has arranged an audience with the Pope.
While the jerk is taking a nap, his bride plots a momentary escape to fulfill her one wild fantasy- A meeting with the "White Sheik" a hero of the "frumetti. a sort of trashy photographic comic book popular in 50s Italy- to whom she has sent red hot fan mail. She learns that the studio is only a few blocks from the hotel and resolves to meet her secret love for just a minute and get back to the hotel in time. Through a comedy of errors she is accidentally "abducted" to a shooting session where she learns to be careful about what she wishes for. Meanwhile, her husband is desperately searching for her and coming up with all kinds of frantic excuses to his family for her absence. I won't describe the movie any further for the benefit of those who wish to see it.
A very effective comedy with plenty of innuendo for adults and even some slapstick and sight gags. Loads of laughs for young and old. A very sweet story that nevertheless contains some of the surrealistic elements of Fellini's later work. If possible, get the subtitled version. The Italian language enhances the comical effect. A real gem.
Lo sceicco bianco film completo. Search Myspace Start typing... DID YOU MEAN Your search did not return any results. Please try again. Use Facebook, Twitter or your email to sign in. Don't have a Myspace account yet? No worries, joining is easy. Close Getting in is easy. Use one of your social networks or start fresh with an email address. Already have a Myspace account? Sign in. We loaded your account with your Facebook details. Help us with just a few more questions. You can always edit this or any other info in settings after joining. We loaded your account with your Twitter details. Help us with just a few more questions. You can always edit this or any other info in settings after joining.
Synopsis Two newlyweds travel to Rome for their honeymoon. The bride is a lover of "fotoromanzi" and while in Rome she meets and runs away with her hero, the "White Sheik. However she is soon deluded when she discovers that the actor who plays the Sheik is much less heroic than she imagined. She shamefully returns to her husband. Lo sceicco bianco meridiana. Am i happy that this jewel still hasn't been banned from this channel. It makes my day each turn. Fantastico compositore. Un grande. I can't believe it's really here. One of Fellini's best. Chained to a big brute, who breaks chains. Lo Sceicco Bianco (1952) Federico Fellini ♥♥♥ The White Sheik คือภาพยนตร์ฉายเดี่ยวเรื่องแรกของว่าที่ปรมาจารย์ผู้กำกับ Federico Fellini แม้ยังไม่โดดเด่นชัดสไตล์ Felliniesque แต่ตัวละครก็ราวกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งความเพ้อฝัน พานพบเจอบทเรียนแห่งความผิดพลาดนั้น ตื่นเช้ามาสามารถเริ่มต้นเข้าใจอะไรใหม่ๆด้วยตนเอง มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เดียงสา เมื่อเกิดความลุ่มหลงใหลในบางสิ่งอย่าง มักปล่อยตัวกายใจ ให้เคลิบเคลิ้ม ละล่องลอยไป จนกว่าจะสามารถตระหนักได้ถึงความโง่เขลาเบาปัญญา ถึงสามารถปลุกตื่นลืมตา และเฉลียวฉลาดทันคน ผลงานแรกแจ้งเกิดของผู้กำกับ Federico Fellini อาจไม่ใช่เรื่องที่มีความกลมกล่อมลงตัวสักเท่าไหร่ แต่เนื้อหาแฝงข้อคิดน่าสนใจ เพลงประกอบสุดไพเราะของ Nino Rota และอะไรหลายๆอย่างพบเห็นเป็นสไตล์ลายเซ็นต์เด่นชัดในผลงานถัดๆมา ก่อนไปเริ่มต้น ขอแนะนำบทเพลงของ Nino Rota คือครั้งแรกที่ร่วมงานกับ Fellini ประทับใจมากๆจนกลายเป็นคู่หูขาประจำ ฟังประกอบไปด้วยจะช่วยเพิ่มบรรยากาศ อรรถรสในการอ่านมากทีเดียว “I had grown affectionate to that soundtrack and I would not change it. Nino agreed immediately with me, saying the tunes I had used for shooting were really beautiful. It was just what was needed, he said, I couldnt do better. He said just this, and meanwhile, he was toying with his fingers on the piano keyboard. What was this, I asked after a while? What were you playing? And, looking absent-minded, he replied, when? Now, I insisted, while you were speaking. You played something. Indeed, said Nino? I dont know, I dont remember. And he kept caressing the keys, seemingly at random, here and there smiling at me, looking as if he wanted to reassure me”. – Federico Fellini เกร็ด: หนังสัญชาติอิตาเลี่ยนแทบทุกเรื่องยุคสมัยนั้น ใช้การพากย์เสียงทับภายหลัง ไม่ใช่ Sound-on-Film ดังนั้นระหว่างการถ่ายทำจึงมักมีการเปิดเพลงบรรเลง สำหรับสร้างบรรยากาศในการทำงานให้กับนักแสดง Federico Fellini (1920 – 1993) ผู้กำกับภาพยนตร์สัญชาติอิตาเลี่ยน หนึ่งในบุคคลทรงอิทธิพลสุดในวงการภาพยนตร์ เกิดที่ Rimini, Italy ในครอบครัวชนชั้นกลาง อาศัยอยู่บ้านติดทะเล Adriatic Sea ตั้งแต่เด็กมีความชื่นชอบวาดรูป อ่านการ์ตูน เล่นหุ่นเชิด ตอนอายุ 6 ขวบ ได้รู้จักเปิดโลกทัศน์กับ Grand Guignol (โรงละครเวที) พบเห็นการแสดงของตัวตลกคณะละครสัตว์, รับชมภาพยนตร์, การแสดงละครเวที ฯ ในช่วงผู้นำเผด็จการ Benito Mussolini ร่วมกับน้องชาย Riccardo สมัครเป็นสมาชิก Avanguardista (Fascist Youth) พออายุ 17 เปิดร้านเล็กๆที่ Rimini รับจ้างวาดภาพ Portrait ทำโปสการ์ด เขียน Gag Writer ช่วงหนึ่งเป็นนักเขียนการ์ตูนรายสัปดาห์ สมัครเข้าโรงเรียนกฎหมายที่ University of Rome แต่ไม่เคยเข้าเรียนสักครั้ง เอาเวลาไปเขียนบททความ ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร MarcAurelio, มีชื่อขึ้นเครดิตเขียนบทครั้งแรก Il pirata sono io (1943) ของผู้กำกับ Mario Mattoli, พบเจอ Giulietta Masino ปี 1942 แต่งงานกันปีถัดมา ลูกคนแรกแท้งเพราะตกบันได ลูกคนที่สองเกิดปี 1945 อายุเพียงเดือนเดียวเสียชีวิตจากโรคสมองอักเสบ (Encephalitis) พวกเขาจึงพอแล้ว อาศัยอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จับพลัดจับพลูพบเจอร่วมงานกับ Roberto Rossellini เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Rome, Open City (1945) เปิดประตูสู่ Italian Neorealism ตามด้วย Paisà (1946) ร่วมกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกกับ Alberto Lattuada เรื่อง Variety Lights (1951) สำหรับผลงานฉายเดี่ยวครั้งแรก The White Sheik (1952) ดั้งเดิมคือเรื่องราวพัฒนาโดย Michelangelo Antonioni (ว่าที่ผู้กำกับดังสัญชาติอิตาเลี่ยน) ตั้งใจที่จะกำกับสร้างภาพยนตร์ด้วยตนเอง โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับ Fumetti นิตยสารรายสัปดาห์ที่มีลักษณะคล้ายการ์ตูนช่อง (Comic Strip) แต่แทนที่จะเป็นรูปภาพวาด ใช้นักแสดงเข้าฉากถ่ายแบบภาพนิ่ง ซึ่งเรื่องราวมักเป็นแนว Romantic ชวนเพ้อฝัน กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในอิตาลีช่วงทศวรรษนั้น สำหรับคนจินตนาการไม่ออกว่า Fumetti มีลักษณะเช่นไร ดูจากภาพตัวอย่างนะครับ นำนักแสดงมาเข้าฉาก ถ่ายภาพนิ่ง แล้วนำมาตัดปะลงในช่อง ใส่ข้อความสำหรับพูดคุยสนทนา/บรรยาย แต่ Antonioni ก็ได้เคยสร้างหนังสั้นแนวสารคดี ลักษณะคล้ายๆ Fumetti มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Lies of Love (1949) La funivia del Faloria (1950) ฯ เลยล้มเลิกความตั้งใจนั้น มอบบทที่พัฒนาไว้คร่าวๆให้โปรดิวเซอร์ Carlo Ponti ซึ่งได้ส่งต่อ Fellini และนักเขียนขาประจำ Tullio Pinelli, Ennio Flaiano พัฒนากลายเป็นบทภาพยนตร์ หลังจากแต่งงาน Ivan Cavalli (รับบทโดย Leopoldo Trieste) นำพาภรรยา Wanda (รับบทโดย Brunella Bovo) เดินทางไปกรุงโรมเพื่อฮันนีมูน พบเจอญาติพี่น้อง และเข้าเฝ้าพระสันตะปาปา แต่เช้าวันแรกเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง ระหว่างสามีกำลังงีบหลับพักผ่อน เธอแอบหนีระหว่างแสร้งอาบน้ำ เดินทางไปยังสำนักงานผลิตนิตยสาร Fumetti เพื่อนัดพบเจอกับพระเอกหนุ่มสุดหล่อ The White Sheik (รับบทโดย Alberto Sordi) ผู้นำแสดงในเรื่องราวดังกล่าวนั้น แต่เหตุการณ์จับพลัดพลู อยู่ดีๆเธอถูกผลักขึ้นรถ แล้วไปโผล่ท่ามกลางทะเลทรายห่างไกลจากกรุงโรม 20 ไมล์ กลายเป็นหนึ่งในตัวประกอบเข้าฉากถ่ายทำ ซะงั้น! ฝั่งของ Ivan Cavalli ตื่นขึ้นมาเมื่อไม่พบเจอภรรยา เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกกลัว เหงื่อแตกพลั่กๆ ครุ่นคิดว่าเธอคงทอดทิ้งเขาไป แล้วนี่ฉันจะเอาหน้าไปพบเจอญาติๆ ครอบครัว พระสันตะปาปาได้อย่างไร! พยายามปลิ้นปล้อน กะล่อน เอาตัวรอด โกหกหลอกลวง แม้นั่นจะเป็นสิ่งขัดต่อศักดิ์ศรี เกียรติยศของตนเอง กระทั่งยามค่ำคืนนั้นหมดสิ้นเรี่ยวแรงนั่งร่ำร้องไห้ พานพบเจอสองสาวโสเภณี หนึ่งในนั้นคือ Cabiria (รับบทโดย Giuletta Masina) จะเป็นอย่างไรไปจินตนาการเอาเองแล้วกัน นำแสดงโดย Alberto Sordi (1920 – 2003) นักร้องนักแสดง สัญชาติอิตาเลี่ยน เกิดที่กรุงโรม โตขึ้นเข้าเรียน Milans Dramatic Arts Academy แต่ถูกขับไล่ออกเพราะสำเนียงโรมันหนาเตอะ ระหว่างนั้นเลยไปฝึกหัดเป็นนักร้องโอเปร่า เสียง Bass จากนั้นกลายเป็นนักพากย์ นักแสดงภาพยนตร์ โด่งดังกับ The White Sheik (1952) I Vitelloni (1953) The Great War (1959) The Best of Enemies (1961) Il diavolo (1963. คว้ารางวัล Golden Globe: Best Actor – Comedy or Musical รับบท The White Sheik พระเอกในนิตยสาร Fumetti คารมเป็นต่อ รูปหล่อไม่เท่าไหร่ ร่างกายบึกบึนกำยำ เป็นที่ลุ่มหลงใหลของสาวๆ แต่แท้จริงแต่งงานมีภรรยาอยู่แล้ว แค่เบื่อหน่ายกับความเจ้ากี้เจ้าการ เลยพยายามดิ้นพร่าน ทำตัวเสเพลย์บอย คอยเอารัดเอาเปรียบหญิงสาวอ่อนเยาว์วัย เกร็ด: Sheik มาจากภาษาอาหรับ (شيخ) แปลตามตัวคือ ผู้อาวุโส แต่มักใช้เรียกคนที่มีตำแหน่งสำคัญๆ หัวหน้าเผ่า ผู้รู้ในศาสนา(อิสลาม) การปรากฎตัวของ The White Sheik เป็นอะไรที่ตราตรึงมากๆ อยู่สูงเกินไขว่คว้า ไม่สามารถเอื้อมมือจับถึง กระทั่งเมื่อกระโดดตกลงมาบนภาคพื้นดิน พาหญิงสาวไปพร่ำพรอดรักกลางทะเล ช่างล่องลอยราวกับอยู่ในความเพ้อใฝ่ฝัน กระทั่งเมื่อหวนกลับฝั่งเข้ามา พานพบเจอโลกความจริงที่แสนเหี้ยมโหดร้าย ผมละโคตรพิศวงกับความไม่หล่อของ Sordi แต่สาวๆอิตาเลี่ยนยุคสมัยนั้น กลับชื่นชอบในความกำยำ บึกบึน อวบอ้วน ว่าไปภาพลักษณ์พี่แกแลดูคล้ายๆ Oliver Hardy หนึ่งในนักแสดงตลกคนโปรดของ Fellini สามารถแสดงได้ทั้งโรแมนติกหวานแหวว และคอมเมอดี้ขี้แย Leopoldo Trieste (1917 – 2003) นักแสดงสัญชาติอิตาเลี่ยน เกิดที่ Reggio Calabria ทีแรกไม่ได้มาเต็มใจคัดเลือกนักแสดง The White Sheik (1952) แต่กลายเป็นบทสร้างชื่อโด่งดัง ผลงานเด่นๆติดตามมา อาทิ I vitelloni (1953) Il peccato degli anni verdi (1960) The Godfather Part II (1974) Cinema Paradiso (1988) Luomo delle stelle (1995) ฯ รับบท Ivan Cavalli เสมียนจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีชื่อเสียง หน้าตาในสังคมพอสมควร นั่นเองทำให้เขาเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ขี้จุกจิก เรื่องมากความ ต้องการทุกสิ่งอย่างให้เหมือนเปะดั่งเผด็จการ แต่ความผิดพลาดจากภรรยาป้ายแดง ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะผ่อนปรน ให้อภัย เพราะตนเองก็ได้กระทำบางสิ่งอย่างไม่น่าให้อภัยอยู่เหมือนกัน หนวดของ Trieste โดดเด่นเป็นสง่า หยาดเหงื่อเม็ดโป้งๆแตกพลักไหลลงมา ดวงตาเอ๋อเหรอเบิกโพลง สะท้อนถึงความเครียด กดดัน ชีวิตคงไม่เคยสับปะรดขนาดนี้ จนต้องหาหนทางวิธีปลิ้นปล้อน กะล่อน ดิ้นรนเอาตัวรอด ช่างดูน่าสงสารเห็นใจ ขณะเดียวกันก็ชวนให้สมน้ำหน้าเหลือทน ขบขันจากการแสดงเน้น Slapstick Comedy ส่วนผสมของ Charlie Chaplin กับ Ben Turpin Brunella Bovo (1932 – 2017) นักแสดงหญิง สัญชาติอิตาเลี่ยน เกิดที่ Padua แม้ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แสดงภาพยนตร์เกรดบี แต่ผลงานโลกจดจำคือ Miracle in Milan (1951) และ The White Sheik (1952) รับบท Wanda Giardino Cavalli ภรรยาสาวสุดสวย อ่อนเยาว์วัยไร้เดียงสา ผู้มีความลุ่มหลงใหลพระเอกในความเพ้อฝันจินตนาการ ต้องการพานพบเจอตัวจริง ปล่อยตัวปล่อยใจจนเลยเถิดไป กระทั่งได้รับรู้ว่าชีวิตหาได้ต้องเป็นดั่งฝัน สามีที่เพิ่งแต่งงานด้วยเท่านั้น คือ The White Sheik แท้จริง! ผมละชื่นชอบความใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของ Bovo เสียจริง ปล่อยตัวปล่อยใจ คล้อยตามไปกับวิถีแห่งโลก แรกๆยังพอหักห้ามใจตนเองอยู่ได้บ้าง สุดท้ายก็มิอาจต้านทานคลื่นกระแสลมพัดแรง เมื่อขึ้นฝั่งเลยกลายเป็นพายุคลุ้มคลั่ง ถาโถมภายในรุนแรงถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเมื่อทุกสิ่งอย่างพัดผ่านไป เลยกลายเป็นบทเรียนแห่งชีวิตทรงคุณค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใด น่าเสียดายจริงๆที่ Bovo ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากในอิตาลี อาจเพราะประเทศนี้ชื่นชอบนักแสดงในบทบาทหยาบกร้าน กระด้าง เข้มแข็งแกร่งทั้งภายนอก-ใน มากกว่า (แบบเดียวกับผู้ชาย ชอบแนว Macho บึกบึนกำยำ) ถ่ายภาพโดย Arturo Gallea (1895 – 1959) สัญชาติอิตาเลี่ยน ผลงานเด่นๆ อาทิ Two Cents Worth of Hope (1952) The White Sheik (1952) ฯ หนังถ่ายทำยังสถานที่จริงทั้งหมด Fregene, Rome, Spoleto และด้านหน้า Vatican City (เหมือนจะขออนุญาตถ่ายทำภายในไม่ได้ เลยแค่ตรงนั้นแหละ) แม้ว่าสไตล์ Felliniesque จะยังไม่โดดเด่นชัดเท่าที่ควร แต่หนังก็มีภาพแปลกตา การกระทำน่าพิศวง ชวนให้อึ้งทึ่ง ตะลึงงัน ทำไมถึงต้องนำเสนอออกมาอย่างนั้น? Wanda เปิดน้ำท่วมไหลเจิ่งนองออกมาจากห้อง สะท้อนถึงความสัมพันธ์ ‘น้ำเต็มแก้ว กับสามี ที่เต็มไปด้วยความจู้จี้จุกจิกเรื่องมาก ไม่ยินยอมให้เธอพูดบอกความต้องการใดๆออกมา เลยตัดสินใจลักลอบแอบย่องหนีไป จนกลายเป็นปัญหาลุกลามบานปลายขึ้นใหญ่โต การห้อยโหนชิงช้าของ The White Sheik ผมแทบจะขยี้ตามองซ้ำอีกรอบ เจ้าชายที่อยู่สูงเกินเอื้อมมือไขว่คว้า ก่อนกระโดดลงมาให้สามารถจับต้องได้ ถือว่าเป็นการซ้อนทับระหว่างความจริง-เพ้อฝัน … นี่ถือเป็นจิตวิญญาณของ Fellini เลยก็ว่าได้ ฉากการถ่ายทำ ณ ริมชายหาด ช่างเต็มไปด้วยความสับสนอลม่าน (ให้ความรู้สึกวุ่นๆคล้ายๆ 8½) แต่สนุกสนานเร้าใจเสียเหลือเกิน เมื่อผู้กำกับตะโกน Shoot! Shoot! ตากล้องโยกซ้ายโยกขวา นักแสดงจะขยับเคลื่อนไหวแล้วค้างไว้ นั่นคือการถ่ายทำของ Fumetti ร้อยเรียงการแสดงภาพนิ่งเข้าด้วยกัน การออกล่องเรือของ The White Sheik และ Wanda สะท้อนถึงช่วงเวลาสองต่อสอง ความฝันที่เคว้งคว้าง ล่องลอยไร้แก่นสาน แค่ว่าได้รับการเติมเต็มเสียงเพรียกเรียกร้องจิตใจ เสพสมหวังร่วมรัก … แม้ในแค่ระยะเวลาสั้นๆ ทุกชุดของ Wanda จะแฝงนัยยะบางอย่างไว้ – แรกเริ่มเมื่อเดินทางมาถึงกรุงโรม เสื้อคลุมมีความมิดชิด และสวมใส่หมวกตาข่าย สะท้อนถึงชีวิตที่ราวกับอยู่ในกรงขัง เต็มไปด้วยข้อจำกัดเรียกร้องมากมายของสามี – ชุดสูทสีขาวระหว่างใส่ไปหา The White Sheik สะท้อนถึงความบริสุทธิ์อ่อนเยาว์วัยต่อโลก – ชุดเดรสเมื่อจับพลัดจับพลูในกองถ่าย Fumetti ราวกับเทพธิดา นางฟ้า ในโลกแห่งความเพ้อใฝ่ฝัน – ช่วงท้ายสวมสูทสีดำ ชีวิตแปดเปลื้อนไปด้วยมลทิน แต่ปฏิเสธที่จะเอาตาข่ายมาปกปิดบังใบหน้าตนเองอีกต่อไป ผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะรับรู้กันดีว่า บทบาท Cabiria ของ Giulietta Masina จะถูกขยายต่อกลายเป็นภาพยนตร์ Nights of Cabiria (1957) ซึ่งการมาถึงของฉากนี้ ช่วงเวลาตกต่ำสุดในชีวิตของ Ivan Cavalli ได้รับการบำบัดถึงพอใจโดยสองสาวโสเภณี คนหนึ่งหยิบมวนบุหรี่ อีกคนจุดไฟแช็ก (สัญลักษณ์ของการร่วมรัก Swinging ควบสอง) พวกเธอรับฟังแบบไม่แคร์ยี่หร่าอะไร แค่นำพาเขาไปสู่สรวงสวรรค์ในจินตนาการก็แค่นั้น หนังเลยเถิดไปถึงโรงพยาบาลบ้า! แต่นี่เป็นการสะท้อนถึงกลุ่มคนที่จมปลักอยู่ในความเพ้อฝันตลอดเวลา จนเห็นภาพหลอน หลอกตัวเอง ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ถูกลากมาแย่งซีน อยู่ในเตียงที่มีลักษณะเหมือนกรงขัง เฉพาะส่วนศีรษะเท่านั้นออกมาด้านนอก สูบบุหรี่พ่นควันฉุย … อยากรู้จริงว่าป่วยเป็นอะไร ไฉนถึงถูกกักขังไว้เช่นนี้ หลังจากหนุ่ม-สาว พานผ่านช่วงเวลาร้ายๆ ครุ่นคิดได้ถึงความรักแท้จจริง พวกเขาจึงได้ก้าวเดินพาเรดสู่ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ นครวาติกัน ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข ยั่งยืนยง ตลอดกาลนาน (กระมัง) ตัดต่อโดย Rolando Benedetti ที่จะได้ร่วมงานกับ Fellini อีกครั้งเรื่อง I Vitelloni (1953) หนังดำเนินเรื่องคู่ขนานเหตุการณ์ ผ่านมุมมองสายตาของ Ivan Cavalli และศรีภรรยาป้ายแดง Wanda Giardino Cavalli ซึ่งต่างมีเรื่องวุ่นๆชวนหัว ให้อีกฝั่งฝ่ายต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเอาตัวรอด ปัญหาใหญ่ๆของหนังคือจังหวะการเล่นมุก ตบมุก อยู่ดีๆมักมาถึงโดยไม่ทันตั้งตัว ขำบ้างไม่ขำบ้าง, อย่างฉากที่ Ivan Cavalli เริ่มต้นออกติดตามหาภรรยา ขณะกำลังหน้ามืดตามัวหลังจากอ่านจดหมาย อยู่ดีๆมีขบวนพาเรดวิ่งผ่านเข้ามาแบบไม่มีปี่ขลุ่ย แล้วตัวเขาถูกผลักไสให้ออกไปข้างทาง (นัยยะสะท้อนถึงตัวเขา ราวกับถูกภรรยาผลักไสทอดทิ้ง) และตอนจบตบมุกด้วยการเดินไปเก็บหมวก แล้วปรบมือให้ … คือถ้าครุ่นคิดไม่ทัน ก็อาจจะไม่รู้ว่าฉากนี้ควรขำยังไง? สำหรับเพลงประกอบของ Nino Rota เต็มไปด้วยท่วงทำนองสนุกสนาน หรรษา ครึกครื้นเครง ราวกับอยู่ในคณะละครสัตว์ กำลังเล่นกายกรรม มายากล กระโดดโลดโผนไปมา ช่วยเติมเต็มภาพที่มีความผิดแผกแปลกตา ราวกับแฟนตาซี/ความเพ้อใฝ่ฝันของตัวละคร (และผู้กำกับ) เกร็ด: หลายๆบทเพลงของหนัง ถูกนำไป Re-use เรื่อง La Strada (1954) ผลงานเรื่องถัดๆไปของ Fellini ด้วยนะ! The White Sheik คือภาพยนตร์ Romantic Comedy ที่ร้อยเรียงเรื่องราวชวนเพ้อฝันของตัวละคร – นางเอกตกหลุมรักเจ้าชายสุดหล่อในเทพนิยาย The White Sheik – พระเอกจมอยู่กับอำนาจเผด็จการ อุดมการณ์ตั้งมั่น มีความตรงต่อเวลา และหมกมุ่นในชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ทั้งคู่ต่างกำลังได้มีโอกาสพบเจอ เผชิญหน้า และเรียนรู้จักโลกความจริงที่แม้ไม่สวยงามดั่งเพ้อฝันจินตนาการ แต่เราสามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันด้วยการเปิดอก ยินยอมรับ เข้าใจอีกฝั่งฝ่าย และสามารถยินยอมยกโทษให้อภัยเรื่องที่ผ่านเลยแล้วมาต่อกัน … นั่นคือสรวงสวรรค์จับต้องได้ของมวลมนุษย์ “Our real life is in our dreams, but sometimes dreams are a fatal abyss”. – Wanda Giardino Cavalli ผมครุ่นคิดว่า เราสามารถเปรียบเทียบตัวละคร Ivan Cavalli ได้กับ Fellini ขณะที่ Wanda คงไม่ต่างจากศรีภรรยา Giulietta Masina ทั้งคู่ต่างออกเดินทางสู่กรุงโรมเพื่อเติมเต็มความเพ้อใฝ่ฝันของตนเอง แต่ก็พบว่าชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น พานพบเจอ ผ่านเรื่องร้ายๆมากมาย ตราบใดไม่ยินยอมแพ้ เปิดอกให้อภัย ยินยอมรับความผิดพลาดของอีกฝั่งฝ่าย ก็ไม่มีอะไรในโลกนี้สวยสดงดงามยิ่งกว่า สรวงสวรรค์ล้ำค่าคือสิ่งหลบซ่อนเร้นอยู่ภายในจิตใจเรา หนังได้รับคำวิจารณ์ตอนออกฉายดีเยี่ยมทีเดียว นักวิจารณ์ชื่นชมในไดเรคชั่นผู้กำกับ Federico Fellini นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจยิ่ง แม้ไม่มีรายงานรายรับ แต่ก็น่าจะประสบความสำเร็จพอสมควร เกร็ด: พล็อตของหนัง เป็นแรงบันดาลใจให้กับ To Rome with Love (2012) กำกับโดย Woody Allen ส่วนตัวชื่นชอบหนังมากๆ แม้จะขำบ้าง ไม่ขำบ้าง พบเห็นหลายๆจังหวะมุกยังไม่กลมกล่อมลงตัวสักเท่าไหร่ แต่ที่คลั่งไคล้คือจิตวิญญาณ ตัวตน ความสนใจของ Federico Fellini พบเห็นได้ตั้งแต่ผลงานเรื่องแรกๆนี้ และเพลงประกอบของ Nino Rota เคลิบเคลิ้ม สุดฟิน! The White Sheik คือผลงานที่มักมองข้ามจากแฟนๆผู้กำกับ Fellini แต่ขอแนะนำอย่างยิ่งเลยนะครับ เพื่อจะได้เรียนรู้จักตัวตน แนวความคิด สิ่งสนใจ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น วิวัฒนาการ ก่อนก้าวขึ้นสู่ระดับตำนาน … นี่เช่นกันกับคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ หารับชมได้ทางช่อง Criterion อาจทำให้คุณตกหลุมรัก คลั่งไคล้ ลุ่มหลงใหลปรมาจารย์ผู้กำกับคนนี้ขึ้นมาก็เป็นได้ จัดเรต PG กับการจับพลัดจับพลู และความใสซื่อไร้เดียงสาต่อโลกของตัวละคร คำโปรย, Lo Sceicco Bianco เริ่มต้นโลกแห่งความเพ้อฝันของ Federico Fellini พอจะพบเห็นร่องรอย วิวัฒนาการ จิตวิญญาณ แต่ยังไม่กลมกล่อมลงตัวสักเท่าไหร่ คุณภาพ, พอใช้ -ยังไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ ส่วนตัว, ชื่นชอบมากๆ.
Lo sceicco bianco (1952. This is a great film, but I don't know Italian well enough to follow the dialogue and the timing of the subtitles is way off. Lo sceicco bianco recensione. @musicclearstheair Cool. Lo sceicco bianco musica. Lindo filme do maior diretor que já existiu! Incrível trilha sonora! Grande Nino! Genial. One of the greatest movies of all times I watched it so many times Amazing. Wonderfull, maravilhosa coletanea. Great pleasure to hear. Best surprise in years. Nino Rota reunido. Rota gathered in a very nice way! Thank you, Bazarov, to upload it here.
もっとも大切な映画. Ciao, Albertone. <3. Lo sceicco bianco watch online. Film di quarant'anni che sembrano fatti ieri. Esatto. Synopsis Two newlyweds come to Rome from the provinces for their honeymoon. The apparition on the swing of the white sheik Alberto Sordi, star of the photo strip soap opera. And thus the illusions of the world of entertainment. The kindly prostitutes of the capital, among them Giulietta Masinas Cabiria. The whole of Fellinis world can already be found in this first solo effort by the director from Rimini ( Luci del varietà was co-directed with Lattuada. “The originality of expression finds concrete form in an unrelenting disquiet that is reflected and manifested in the malicious way in which the camera moves, sometimes staring pitilessly, at others satirically inciting gestures, deeds and actions on the part of the petit bourgeois protagonists grappling with the fulfillment of their provincial dreams. A petite bourgeoisie seen as a renunciation of authenticity, as a desire to pursue a host of common and flaccid myths with touching dedication: from the brass band of the Bersaglieri to the world of photonovels; from the carriage ride through the streets of Rome to the honor suicide and the yearned-for [papal] audience. ” Lino Del Fra, “Bianco e Nero”, yr. XVIII, no. 6 (June 1957) Directors Statement The first day of shooting of Lo sceicco bianco got off to a bad start. I arrived at Fregene at a quarter to ten when the appointment had been for half past eight. They had all set off on a barge that was a kilometer away on an immense expanse of sea. They seemed to me to very distant, out of reach. I asked myself “And now what do I do? ” I couldnt remember the plot of the film, I couldnt remember anything. I just wanted to get out of there. To forget all about it. But then all my doubts vanished as soon as I set foot on the rope ladder. I hoisted myself onto the barge. I slipped in among the crew. I was curious to see how it was all going to end. Federico Fellini, Fare un film (Turin: Einaudi, 1980) 51-52 Producers/Distributors PRODUCTION 1: FONDAZIONE CINETECA DI BOLOGNA via Riva Reno 72 40122 Bologna, Italy Tel. +39 051 2194214 PRODUCTION 2: RTI-Mediaset PRODUCTION 3: Infinity PRODUCTION WHEN THE FILM WAS MADE: P. D. C. O. F. I. PRESS OFFICE: Andrea Ravagnan - FONDAZIONE CINETECA DI BOLOGNA Tel. +39 051 2194833.
When the young mother sings Gesolmina ‘s song, it makes me cry a little beat. Gesolmina is the most sweet character that I have ever seen in movies. How much Gesolminas are in the world and we dont pay any attention to them. 🌹🌷🌺❤️. Intermezzo. Lo sceicco bianconeri. I think La Dolce Vita is the best film ever. I have watched this movie may be 30 times. Me two. Giulietta had such a cute little face, it's no wonder Fellini married her. She was also great in Juliet of the Spirits. Federico Fellinis 100th birthday is January 20th and we will mark the occasion with a screening of a long sought-after gem by him never shown in Cleveland before. (It was the maestros first solo outing. WHAT: THE WHITE SHEIK - LO SCEICCO BIANCO Italy, 1952, Federico Fellini TRAILER: WHEN: Saturday, January 25th at 5 p. m. WHERE: The Cinémathèque - Cleveland Institute of Art TICKETS: 11 Regular; Special for Cinémathèque members, CIA & CSU students 8. On-line purchase recommended: PARKING: CIA's campus has three lots. Two of them (Lot 73 and the annex lot) are available to Cinematheque patrons, and both are accessed from E. 117th Street, south of Euclid. Cinémathèque patrons should try to park in Lot 73, located in the rear of the complex. Its the closest lot to CIA building entrance C. If Lot 73, is full, park in the annex lot on the east side of 117th. Those who park in the annex lot should also use Entrance C (off Lot 73) to enter the building. Parking is free and monitored by security. DINNER/DRINKS/DISCUSSION: La Dolce Vita, Mayfield and Murrary Hill in Little Italy. If the weather permits, you may leave your car in the Cinematheque lot and take the 5-minute walk to the restaurant. THE FILM Co-written by Michelangelo Antonioni, The White Sheik focuses on a young provincial bride who, while honeymooning in Rome, abandons her new husband to meet her longtime romantic idol, the star of her favorite fumetti (photographic comic book. The “sheik” is played by Italys esteemed comic actor Alberto Sordi (also born 100 years ago. With Giulietta Masina (who makes her first appearance as the prostitute Cabiria. Music by Nino Rota. “My favorite Fellini movie. ” -Orson Welles. “As hilarious as any Italian farce ever made. ” -NY Times. Cleveland revival premiere. Subtitles. DCP. 83 min. Review: Cinéma Cleveland. The nominal 5 annual membership fee goes toward the charges and other related administrative expenses. This is a restricted event for those current on annual dues (5. You may pay the organizer tonight or pay by credit card on PayPal by sending the fee to [masked] as FRIENDS & FAMILY (to avoid service charges. It may be difficult to find the FRIENDS option but it is there and you will avoid an obscene 62-cent fee. Paid members of Music Cleveland! receive a fee waiver in this group. Cinéma Cleveland! is Theater & Performance Art Art Classic Films Italian Film German Film Historic Cinema and Films British Film British Movies Film Festivals Foreign Films Movies/Dinner Independent Film Arts and Entertainment Books and Movie Discussions.
Lo sceicco bianco nino rota.
Grazie mille, buona serata.
It is a true masterpiece. One of the best Italian movie. In my opinion, it is the greatest and the most memorable film from this age. Io adoro tutte le cose italiane.
Sublime.
30 minutes in i wanted it to last for hours. alas i knew it was 100 mins long. It truly is a treasure to debate in your mind if the film you've just seen is in your top 10. Art can fool you. Cinema can't, it just is. For an amazing long watch(7hrs)SATANTANGO.
Lo sceicco bianco casalecchio. Il circo è sempre presente nei film di Fellini. Anche qui la lacrima nera sul volto di Giulietta Masina la fa sembrare un clown triste. La musica poi è ancor più evocativa. BELLISSIMA MUSICA, INDIMNTICABILE, CHE TI RIMANE NEL CUORE, GRAZIE, CIAO. Food Service Value Atmosphere CUISINES Bar, International, Pub Location and contact Via Aldo Moro 58 2 Anello - Centro Meridiana. 40033 Casalecchio di Reno Italy Improve this listing Is this location primarily known for Bars & Pubs? Yes No Unsure Is this restaurant good for large groups? Yes No Unsure Is this restaurant good for brunch? Yes No Unsure Does this restaurant serve Bar / Pub food? Yes No Unsure Is this a fast food place? Yes No Unsure Is this an Italian restaurant? Yes No Unsure Is this restaurant wheelchair accessible? Yes No Unsure Does this restaurant offer table service? Yes No Unsure Does this restaurant have tables with seating? Yes No Unsure Does this restaurant serve alcohol? Yes No Unsure Excellent 44 Very good 62 Average 57 Poor 50 Terrible 64 Families Couples Solo Business Friends Mar-May Jun-Aug Sep-Nov Dec-Feb All languages English Italian (276) Spanish (1) See what travelers are saying: Reviewed today Google Translation Date of visit: February 2020 Reviewed 3 weeks ago via mobile Google Translation Date of visit: January 2020 virgin1710 Bologna, Italy Reviewed 3 weeks ago Google Translation Date of visit: December 2019 Reviewed November 24, 2019 Google Translation Date of visit: November 2019 Reviewed November 19, 2019 via mobile Google Translation Date of visit: November 2019 vitux87 Castello di Serravalle, Italy Reviewed November 2, 2019 via mobile Google Translation Date of visit: November 2019 Reviewed October 24, 2019 via mobile Google Translation Date of visit: October 2019 Reviewed September 21, 2019 via mobile Google Translation Date of visit: September 2019 Reviewed September 3, 2019 Google Translation Date of visit: September 2019 laura_512_12 Rimini, Italy Reviewed September 1, 2019 via mobile Google Translation Date of visit: August 2019 View more reviews Is This Your Listing? Own or manage this property? Claim your listing for free to respond to reviews, update your profile and much more. Claim Your Free Listing.
8:45 Sordi parla ancora di Max Tortora, il suo imitatore. Lo sceicco bianca and family. È possibile che me fa taja anche se sta parlando semplicemente😍🤣 magnifico e indimenticabile. Ti ama, ZAMPANO, gracie ❤️. Lo sceicco bianco di fellini. Italy, 1952 Comedy, Drama Ivan Cavalli brings his new wife Wanda to Rome on the least romantic honeymoon in history, a rigid schedule of family meetings and audiences with the Pope. But Wanda, dreaming of the dashing hero of a photo-strip cartoon, drifts off in search of the White Sheik. This film is not currently playing on MUBI but 30 other great films are. See whats now showing Through the course of her devastating awakening, its easy to feel bad for Wanda. “Life is a dream, ” she dejectedly concedes, summarizing the core of Fellinis fancy, “but sometimes a dream is a bottomless pit. ” On the other hand, as enacted by high-tension Trieste, who had little prior acting experience, as opposed to Bovo, who had the year prior appeared in Vittorio De Sicas thematically comparable Miracle in Milan, Ivans plight is equally tragic, albeit less heartbreaking. A comic fable of mass-produced fantasy and fanatical devotion. J. Hoberman December 24, 2019 Antonioni would expand this Roman caprice with La Signora Senza Camelie the following year, Federico Fellini here envisions the heroines trajectory (mouse to harem girl and back) as warm Flaubertian satire. Fernando F. Croce September 25, 2010.
The most depressing film I have seen in a while. Una coppia di sposini della provincia laziale è in luna di miele a Roma. Wanda, la giovane moglie appassionata di fotoromanzi, approfitta del viaggio per incontrare lo "Sceicco bianco" idolo del suo fotoromanzo preferito. Fonte Trama. MA COME OSI? OSO. OSO. OSO. MA SONO UNA PRINCIPESSA DI SANGUE REALE IO SONO MONARCHICO SA' UNA MAMO LAVA L' ALTRA ASSAGGIAMI. ASSAGGIAMI. E DIVENTEREMO AMICI.P.S. QUESTO ERA TOTO' UN GENIO DELL' IMPROVVISAZIONE CHE SAPEVA GIOCARE CON LE SOMIGLIANZE DELLE PAROLE ED I DOPPI SENSI AVANTI 100 ANNI RISPETTO AL SUO TEMPO MERAVIGLIOSO ED UNICO IMMORTALE.
From Wikimedia Commons, the free media repository Jump to navigation Jump to search The White Sheik 1952 film by Federico Fellini Upload media Wikipedia Instance of film Genre drama film comedy film Country of origin Italy Composer Nino Rota Screenwriter Tullio Pinelli Ennio Flaiano Federico Fellini Michelangelo Antonioni Producer Luigi Rovere Director Federico Fellini Cast member Alberto Sordi Leopoldo Trieste Giulietta Masina Brunella Bovo Lilia Landi Ernesto Almirante Fanny Marchiò Gina Mascetti Jole Silvani Antonio Acqua Publication date 1952 Duration 85 min Authority control Q18397 VIAF ID: 194805029 GND ID: 4229787-4 Bibliothèque nationale de France ID: 12199303h SUDOC authorities ID: 030612829 IMDb ID: tt0044000 Reasonator PetScan Scholia Statistics Search depicted Media in category "Lo sceicco bianco" The following 2 files are in this category, out of 2 total. Lo sceicco 457 × 380; 28 KB Sceicco Bianco 400 × 304; 18 KB Retrieved from. Categories: Films of Italy, 1952 Films of Italy by title Films by Federico Fellini Non-topical/index: Uses of Wikidata Infobox.
BABYLON in Berlin - Fellini 100! Lo Sceicco Bianco [The White Sheik] Fellini 100! Lo Sceicco Bianco [The White Sheik] IT, 1952, R: Federico Fellini mit Giulietta Masina, Alberto Sordi, Brunella Bovo, 85 Min, OmeU DE Die frisch verheirateten Wanda und Ivan sind auf Hochzeitsreise in Rom. Während sich Ivan im Hotel ausruht, begibt sich Wanda auf die Suche nach der Redaktion des Fotoromans "Der weiße Scheich" und wird auch bald fündig. Kurz darauf bemerkt Ivan das Verschwinden seiner Gemahlin und streift verwirrt durch die Metropole um sie zu finden. EN The White Sheik, Fellini's first solo flight as director, is a gentle lampoon of the idolatry heaped upon movie stars. An impressionable young bride, Wanda accompanies her husband Ivan on a dull honeymoon, full of meetings with family members and the papal father. Bovo fantasizes over matinee idol Fernando Rivoli, AKA The White Sheik, the hero of a photo strip comic. She repeatedly drifts away from her husband and back, in periodic attempts to find The Sheik, ultimately repairing to the location site where Sordi's latest film, The White Shiek, is in production. Her inevitable disillusionment with the vainglorious Sordi is intercut with her husband's comic (and desperate) attempts to explain his wife's absences at family gatherings to his disgruntled relatives. After a comically inept suicide attempt, Bovo and Trieste are reunited. Featured in the cast is Fellini's wife Giuletta Masina as a prostitute named Cabiria, who'd be given a vehicle of her own, Nights of Cabiria, in 1955. Based on "an idea" by Michelangelo Antonioni, The White Sheik was the main inspiration for Gene Wilder's The World's Greatest Lover (1977. Trailer: Um unsere Webseite für Sie optimal zu gestalten und fortlaufend verbessern zu können, verwenden wir Cookies. Durch die weitere Nutzung der Webseite stimmen Sie der Verwendung von Cookies zu. Weitere Informationen zu Cookies erhalten Sie in unserer Datenschutzerklärung.
Lo sceicco blanco y negro. Lo sceicco bianco altalena. GRAZIE Albertone. Thank you so much for this upload of Nino Rota's gorgeous music. Recommended by 459 people Wow. Ottima scelta di vini, gentilezza e professionalità! Slow service・Rude bartenders Locale di merda. Ho pagato con una bagnata di 100. E loro mi hanno detto che là colore è strana. M. i ha chiesto il documento di identità, che hanno paura del mia bagnata. Locale di merda. See More Purtroppo siamo stati costretti a cambiare la modalità di vivere laperitivo perché per colpa di mol. te persone, sinceramente troppe, laperitivo stava diventando lAPERICENA, dove ad esempio con 5, 50 molti clienti intendevano bere bene e saziarsi come in una cena (con Calice di vino di qualità, Buffet a libero servizio più volte fruito e Taglierino al tavolo) addirittura alcuni clienti volevano saziarsi al buffet avendo ordinato una tisana o una coca cola o un the al limone. Col passare del tempo questo comportamento ha creato forti ingiustizie perché i clienti che con una sola coca cola a 3, 00 euro o un solo caffè ad 1, 00 (al tavolo. svuotavano il buffet ripetutamente impedendo ad altri di poter trovare qualcosa. Per noi laperitivo è bere un buon cocktail fatto con ottimi ingredienti, un buon calice di vino di qualità e contemporaneamente, per chi lo desidera, stuzzicare qualcosa da mangiare per poi arrivare con ancora appetito alla cena. Oggi finalmente allo Sceicco c'è un modo diverso dagli altri locali di fare aperitivo, come già succede in altre grandi città europee, un cliente paga meno tutti i cocktails e meno tutti i vini e riceve un piccolo snack cortesia (patatine) … come molti clienti fortunatamente ci hanno testimoniato, se vuole solo bere bene per lui è solo un vantaggio. Se poi un cliente volesse stuzzicare qualcosa (e non cenare perché per questo ci sono i ristoranti e le pizzerie e mai vorremmo fare il loro mestiere) ha la possibilità come in Spagna di scegliere lui quanto e cosa mangiare tra unampia scelta di tapas servite al tavolo dove dalle 18:00 alle 21:00 il prezzo viene abbattuto del 50% il prezzo normale è allineato al prezzo medio delle tapas in Spagna, dove tra laltro il costo della vita è più basso. See More.
Merci ULTIMATE CLASSICS HD : appréciation totale de ce film magnifique à toujours 💜🌺🙋🎼 🎼. EXcellenT <3 Merci. Federico Fellini, born January 20, 1920, Rimini, Italy—died October 31, 1993, Rome) Italian film director who was one of the most celebrated and distinctive filmmakers of the period after World War II. Influenced early in his career by the Neorealist movement, he developed his own distinctive methods that superimposed dreamlike or hallucinatory imagery upon ordinary situations. He added vastly to the vocabulary of the cinema and pioneered a personal style of filmmaking now integral to its practice. Early life and influences The son of a traveling salesman who sold foodstuffs and a mother who believed that, in marrying beneath her, she betrayed her links to Roman nobility, Fellini grew up believing he belonged in Rome. In the late 1930s he moved there with his mother and brother. Only Federico stayed on, however, surviving by selling cartoons, gags, and stories to the humour magazine MarcAurelio. During World War II, Fellini wrote scripts for the radio serial Cico e Pallina, starring Giulietta Masina, who became his wife in 1943 and who appeared in several of his films during an often troubled 50-year marriage. In 1944 Fellini met director Roberto Rossellini and became one of a team of writers for Roma, città aperta (1945; Open City or Rome, Open City) a pioneer film of Neorealism. Fellinis contribution to the screenplay earned him his first Oscar nomination. Fellini quickly became one of Italys most successful screenwriters. He collaborated on screenplays for such directors as Pietro Germi ( Il cammino della speranza [1950; The Path of Hope. Alberto Lattuada ( Senza pietà [1948; Without Pity. and Luigi Comencini ( Persiane chiuse [1951; Behind Closed Shutters. he was uncredited on the latter film. In addition, Fellini contributed to Rossellinis Paisà (1946; Paisan) and Il miracolo (1948; “ The Miracle”, an episode of the film Lamore) in which he also acted, playing a tramp who impregnates a simple-minded peasant when she takes him for the reincarnation of St. Joseph. Get exclusive access to content from our 1768 First Edition with your subscription. Subscribe today Fellinis quest for a more personal style, which often verged on the fantastic, alienated Neorealist purists. His directorial debut, Luci del varietà (1950; Variety Lights) made in collaboration with Lattuada, is set in a traveling variety show. An enthusiast of the seedy side of show business, in particular vaudeville and the circus, Fellini returned to this milieu repeatedly, beginning with his first independent feature, Lo sceicco bianco (1952; The White Sheik) a satire on the fumetti (photographic comic strips) and their fanatical fans. However, his first critical and commercial success, I vitelloni (1953; Spivs or The Young and the Passionate) exhibited little fantasy. Based on his own adolescence in Rimini, it faithfully reflects the boredom of provincial life, which drove him to Rome. Luci del varietà Carla Del Poggio and Peppino De Filippo in Luci del varietà (1950; Variety Lights) directed by Alberto Lattuada and Federico Fellini. DeA Picture Library Major works With La strada (1954; “The Road”) Fellini returned to the world of showmen. It starred Anthony Rudolph Oaxaca Quinn as Zampanò, a brutish but phoney itinerant "strong man. and Masina as the waif who loves him. The film was shot on desolate locations between Viterbo and Abruzzo, mean villages and flinty roads that were intended to reflect the moral aridity of Quinns character, throwing into relief the sweet, forgiving nature of Masinas Gelsomina. A commercial success, La strada won an Academy Award for best foreign film, and Nino Rota s plaintive theme song became a hit. Producers offered to feature Masina as Gelsomina in a sequel, but Fellini instead gave her a small role only in the cynical Il bidone (1955; “The Swindle”) which featured Broderick Crawford as the leader of a gang of con men who impersonate priests in order to rob the peasantry. Masina asserted her star quality in Le notti di Cabiria (1957; The Nights of Cabiria) developing the minor character she played in Lo sceicco bianco, a good-natured Roman prostitute who is optimistic even when humiliated and is swindled by the man she expects to marry. One of Fellinis most likeable films, it won an Oscar for best foreign film and inspired the Broadway musical comedy Sweet Charity. La dolce vita (1960; “The Sweet Life”) was the first of many collaborations with Marcello Mastroianni, an actor who came to represent Fellinis alter ego. Inspired by newspaper headlines and some topical scandals, the film comprehensively indicts a Rome dominated by foreign movie stars, corrupt journalists, and decadent aristocrats. Condemned by the Catholic Church but hailed by the public, La dolce vita contributed the word paparazzo (unscrupulous yellow-press photographer) to the English language and the adjective Felliniesque to the lexicon of film critics. He then made his first foray in colour, directing the segment Le tentazioni del dottor Antonio (“The Temptation of Dr. Antonio”) for the omnibus feature Boccaccio 70 (1962. Otto e mezzo (1963; 8 1 / 2) is among Fellinis most widely praised films and earned the director his third Oscar for best foreign film. Entitled 8 1 / 2 for the number of films Fellini had made by that time (seven features and two shorts) it shows a famous director (based on Fellini and portrayed by Mastroianni) in creative paralysis. Harried by argumentative screenwriters, importunate actresses, a terse unloving wife, and his brainless giggling girlfriend, he takes refuge in fantasies of childhood and the dream of a perfect, and therefore unattainable, woman, embodied in Claudia Cardinale. Marcello Mastroianni in Federico Fellini's 8 1 / 2 Marcello Mastroianni in Federico Fellini's 8 1 / 2 (1963. Copyright 1963 Embassy Pictures Corporation In 1965 Fellinis health failed as he prepared what would have been his most personal work, The Journey of G. Mastorna, a dreamlike vision of the afterlife, starring Mastroianni. Forced to abandon the project, he fortuitously found an alternative outlet for his fantasies in colour. Technology placed in Fellinis hands the tools to realize the visions that until then existed only in his dreams: “I close my eyes, ” he wrote of his nocturnal imaginings, “and the festival starts. ” His notebooks recording those dreams, lavishly illustrated, became his raw material. He embraced fantasy even more enthusiastically in Giulietta degli spiriti (1965: Juliet of the Spirits) with Masina as a simple bourgeois haunted by the supernatural. Now established as an international talent, Fellini addressed the myths of Rome, employing an insight into the unconscious gained through study of his preferred psychoanalytical theorist, Carl Jung. Distributors incorporated Fellinis name in the films titles, signifying the unique nature of his vision. Although technically inspired by Roman writers Gaius Petronius Arbiter and Lucius Apuleius, Fellini Satyricon (1969) promoted with the slogan “Before Christ. After Fellini, ” actually celebrated the hippie movement, which he first encountered in the United States. Two aimless young bisexual men wander a morally and physically decaying world of casual decadence, rendered in the gaudy colours that until then had never been associated with antiquity. White marble gave way to crumbling stucco, bawdy graffiti, and urban filth. Sexually ambivalent in his private life, Fellini revealed in Satyricon a preoccupation with obesity, mutilation, and hermaphroditism that many found disturbing. Disappointingly, he never realized his hope of casting both Groucho Marx and Mae West in the film. In Roma (1972; Fellinis Roma) the director applied the tools of fantasy to the national capital, alternating episodes of the modern hippie occupation of its monuments with his teenage visits to its brothels and the excavations that uncover what remains of the ancient city. An “ecclesiastical fashion show” controversially mocks the Vatican that consistently condemned his films. For Amarcord (1973) which won Fellini a fourth Oscar for best foreign film, he re-created wartime Rimini in Romes Cinecittà studios for a nostalgic remembrance of adolescence under fascism, which restored the eccentricity of his early life that had been omitted from I Vitelloni. Though audiences took the film to be autobiographical, most of its incidents came from the more flamboyant life of a childhood friend. Amarcord Scene from Amarcord (1973) directed by Federico Fellini. DeA Picture Library.
0 comentarios